Saturday, December 31, 2011

ฟุ้งเฟื่อง เรื่องโครงสร้างกาลเวลา (คำถามและปฏิเสธ)

ไหนๆก็ไหนๆ แล้วนะคะ อันนี้ก็ไม่ใช่สูตรอะไรหรอกค่ะ เพียงแต่เป็นเนื้อหาที่น่าจะเรียกได้ว่า มีความ"ต่อเนื่อง" จากเรื่องโครงสร้างกาลเวลาแบบบอกเล่าก็ว่าได้

ถ้าจะว่ากันเรื่องโครงสร้างประโยคของกาลเวลาเนี่ย หลักๆ ยืนพื้นของภาษาอังกฤษ นอกจากบอกเล่า (Positive) แล้ว ก็จะมีคำถาม (Interrogative) และปฏิเสธ (Negative) ถ้าลองคิดง่ายๆ มันก็เหมือนเวลาเราคุยกันเนี่ยแหละค่ะ มันไม่ได้มีแต่ประโยคบอกเล่าแค่อย่างเดียว วันๆ นึง ใครจะเอาแต่พูดเอาแต่เล่าเรื่องใช่มั๊ยคะ มันก็ต้องมีการถามคำถาม หรือการบอกปัดนู่นปัดนี่ ไม่อยากทำนู่นทำนี่บ้างเป็นธรรมดา

ทีนี้ก็มาถึงโครงสร้างกันนะคะ ประโยคบอกเล่านี่ง่ายมาก พูดเฉยๆ ก็ขอแค่ให้มี ประธานแล้วก็กริยา ก็พอ (S+V) ไอ่ส่วนที่จะเป็นกรรมหรือส่วนขยายก็แล้วแต่จะพูดออกมาแล้วล่ะค่ะ ส่วนใช้ในสถานการณ์ไหน อดีต ปัจจุบัน อนาคต จะง่ายๆ หรือ ต่อเนื่อง หรือจะสมบูรณ์ ก็ขึ้นอยู่กับการใช้กาลเวลาแต่ละตัวแล้วค่ะ ตรงนี้บิ้วขอเน้นแค่เรื่องโครงสร้างอีกสองโครงสร้างที่เหลือ

เอาล่ะค่ะ ลองดูประโยคนี้นะคะ I like = ฉันชอบ แต่ถ้าเราจะบอกว่า ฉันไม่ชอบ คนบางคนอาจจะคิดออกมาแบบนี้เลยคือ I not like ซึ่งถ้าถามว่า มันสื่อความหมายได้มั๊ย ฟังแล้วเข้าใจมั๊ย คำตอบคือ เข้าใจค่ะ สื่อความหมายได้แต่ไม่ถูกหลักไวยากรณ์ ซึ่งประโยคที่ถูกต้องคือ I don't like หรือ I do not like
ความแตกต่างของสองประโยคนี้คือ คำว่า "do" ซึ่ง do ตัวนี้มันคือ กริยาช่วย (helping verb) ของ Present Simple ซึ่งจะใ้ช้กับสรรพนามที่ทำหน้าที่เป็นประธานอยู่ 4 ตัว คือ I, You, We, They และคำนามพหูพจน์ที่ทำหน้าที่เป็นประธานของประโยค

ข้อสรุปที่บิ้วต้องการจะบอกคือ เมื่อกล่าวถึงประโยคปฏิเสธ ทุกคนก็คงจะคิดถึงคำว่า "not" แต่พอคิดถึงคำว่า not แล้ว ก็ต้องนึกไปอีกว่า คำว่า not มันไม่สามารถอยู่โดดๆคนเดียวได้ มันไม่แข็งแรง มันจึงต้องการ v.ช่วย มาอยู่ข้างหน้ามัน ให้มาเดินนำหน้ามันก่อน ถ้าจะเปรียบเทียบก็เหมือนกับ ถ้าเราเอา not มาไว้ในประโยค มันทำให้รูปประโยคไม่ถูกต้อง มันเลยไม่แข็งแรง มันก็เลยต้องการกริยาช่วย มาเดินนำหน้า เป็นทัพหน้าให้มันก่อน เหมือนเสริมให้มันแข็งแรง ก็คือ มีรูปประโยคที่ถูกต้อง

ขอกล่าวถึงคำว่า "กริยาช่วย" ก่อนนะคะ ที่มันมาช่วย มันมาช่วยทำอะไร??? มันก็มาช่วยให้ประโยคกลายเป็นคำถามและปฏิเสธได้ ในน้องซิม ส่วนน้องอีกสามตัวที่เหลือ นอกจากจะมาช่วยให้ประโยคเป็นคำถามกับปฏิเสธได้แล้ว มันยังช่วยให้โครงสร้่างครบตามองค์ประกอบของแต่ละตัว คือทำให้มันเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาน่ะค่ะ ในส่วนของกริยาช่วยนี่ จะอธิบายในบล็อกต่อไปละกันนะคะ

ส่วนประโยคคำถามนั้น ให้จำติดไว้ในใจนะคะ ว่าคำถามมีแต่สองแบบคือ แบบที่ถามแล้วตอบได้แค่ Yes หรือ No กับ คำถามที่ขึ้นต้นด้วย Wh-Questions ซึ่ง แบบที่ตอบได้แค่ Yes/No จะเป็นคำถามที่ขึ้นต้นด้วยกริยาช่วยทั้งหมด ส่วนแบบ Wh-Questions ก็จะเป็นคำถามที่ขึ้นต้นด้วย Wh-Q ทั้งหมด โดยตำแหน่งจะอยู่หน้ากริยาช่วยเสมอ ที่สำคัญคือ ห้ามลืมใส่เครื่องหมาย ? (Question Mark) ท้ายประโยคทุกครั้ง

สรุปเลยละกันค่ะ ถ้าพูดถึงเรื่องรูปแบบของโครงสร้างประโยคเีนี่ย หลักๆ เลย คือ มีบอกเล่า ปฏิเสธ แล้วก็คำถาม ซึ่งแต่ละอันสรุปได้แบบนี้ค่ะ

บอกเล่า =  S+V
ปฏิเสธ   =  S + กริยาช่วย + not + กริยาแท้
คำถาม   =  กริยาช่วย + S + กริยาแท้? (Yes/No)
                   Wh-Q + กริยาช่วย + S + กริยาแท้? (Wh-Q)

เอาซะตีหนึ่งเลย ... งั้นคงต้องขอตัวก่อนละกันนะค้า เริ่มง่วง!!! เดี๋ยวคราวหน้า จะมาต่อเรื่องกริยากันแบบคร่าวๆค่ะ :)


2 comments:

  1. ขอบคุณอาจารย์มากๆคะ :)

    ReplyDelete