Saturday, March 17, 2012

Verb (กริยา) ตอนที่ 1

พูดถึงคำว่า Verb (อ่านว่า เวิร์บ)  ซึ่งแปลว่า "กริยา" เมื่อไหร่ คนส่วนใหญ่ก็มักจะพูดเหมือนกันว่า "กริยา คือ การกระทำ" แต่ถ้าใครที่ค้นคว้ามากขึ้นอีกนิดนึง ก็จะเห็นว่า ยังมีคำกริยาบางกลุ่มที่มีรูปเป็นกริยาก็จริงแต่ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นกริยา คือไม่ได้ทำหน้าที่ในการกระทำ เพราะฉะนั้น เมื่อเห็นคำนี้ปุ๊บ ต้องนึกในใจไปด้วยเลยค่ะว่า เราต้องระวังว่า "กริยาบางตัวก็ไม่ได้ทำหน้าที่ในการกระทำ"

ลองมาแปลให้เข้าใจกันอีกครั้งนะคะ

Verb แปลว่า กริยา ซึ่งจะมีการกระทำ (Action Verb) หรือ ไม่มีการกระทำ (Non - action Verb) ก็ได้

ส่วนที่ไม่มีการกระทำนั้น ถ้าเกิดคำถามในใจว่า แล้วถ้าไม่มีการกระทำ แล้วเค้าทำหน้าที่เป็นอะไรล่ะ?
คำตอบก็คือ เค้าทำหน้าที่เป็นส่วนขยายบ้าง ทำหน้าที่ในการช่วยขยายความประโยคบ้าง  แต่ไม่ได้ทำหน้าที่ในการกระทำแน่นอน ก็ต้องนึกในใจให้ได้แบบนี้ก่อนทุกครั้งเวลาเห็นคำที่มีรูปเป็นกริยา อย่าเหมารวมว่าเป็นกริยาทั้งหมดนะคะ ต้องดูดีๆว่า คำกริยานั้น ทำหน้าที่ในการกระทำจริงหรือเปล่า ก็ต้องสังเกตให้เป็น

สรุปก่อนจะไปเนื้อหาต่อไป คือ กริยา แบ่งออกได้ 2 กลุ่ม คือ
1. Action Verb - มีการกระทำ คือ ทำหน้าที่เป็นกริยาในประโยค
2. Non - action Verb - ไม่มีการกระทำ คือ มีรูปร่างหน้าตาเป็นกริยา แต่ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นกริยาในประโยค

ที้นี้ ก็จะมาดูกันว่า มีกริยาประเภทใดบ้างที่แสดงการกระทำ หรือไม่แสดงการกระทำแต่มีรูปเป็นกริยา

กริยาประเภทที่แสดงการกระทำ มีอยู่ 3 ตัวคือ
1. Transitive Verb -  ตัว transitive เอง เค้าแปลว่า "สกรรมกริยา"
(http://th.w3dictionary.org/index.php?q=transitive)
แปลไทยให้เป็นไทยอีกทีก็แปลว่า"กริยาที่ต้องการกรรมมารองรับ" เช่น I meet. ฉันพบ เราก็จะรู้สึกตะขิดตะขวงในใจว่า อ่าว! พูดจบแล้วหลอ แล้วพบใครหรืออะไรล่ะ?? เพราะฉะนั้น กริยาคำว่า "พบ" meet นี้ ต้องการกรรมมารองรับ ว่าพบเจอใครหรือสิ่งอื่นใด ถ้าเราลองเติมกรรมให้ประโยคนี้ เช่น I meet Jane. ฉันพบเจน ใจความก็จะสมบูรณ์

อ่านถึงตรงนี้แล้วเกิดคำถามในใจว่า แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่ากริยาตัวไหนต้องการกรรมหรือไม่ต้องการกรรมมารองรับ ให้ความรู้สึกตัวเองบอกเองว่า เอ๊! อ่านแล้วใจความมันสมบูรณ์มั๊ย แปลแค่ประธานกับกริยาแล้วมันโอเครึยัง หรืออีกวิธีนึงคือ ให้สังเกตในพจนานุกรมภาษาอังกฤษ (บางเล่ม) จะมีบอกว่า กริยาตัวนี้ ต้องการกรรม หรือไม่ต้องการกรรม บางตัวก็เป็นได้ทั้งสองอย่าง อันนี้ต้องอาศัยความคุ้นเคยในการใช้และความสามารถในการแปลด้วย

2. Intransitive Verb -  ตัวของ intransitive ก่อนจะไปแปล ให้มาดูเรื่องของ prefix คำว่า in- กันก่อน
in เมื่อทำหน้าที่เป็น prefix แปลว่า ไม่ ให้ความหมายในทางตรงกันข้าม(ทางลบ) เพราะฉะนั้น Intransitive จึงหมายถึง กริยาที่ไม่ต้องมีกรรมมารองรับ (อกรรมกริยา) http://th.w3dictionary.org/index.php?q=Intransitive

หลักการจะคล้ายๆ กับtransitive คือ อ่านประโยคแปลออกมาแล้ว ถ้ามีแค่ประธานกับกริยา แล้วรู้สึกจบในความรู้สึกมั๊ย คำว่าจบมั๊ย ไม่ใช่จบประโยค แ่ต่หมายถึงอ่านแล้วแปลแล้ว เราได้ใจความมั๊ยว่า ประโยคเค้ากำลังพูดถึงอะไร เช่น I run. ฉันวิ่ง อ่านแค่นี้รู้และเข้าใจรึยัง ว่าประธานทำอะไร จำเป็นต้องมีกรรมมารองรับมั๊ย ส่วนเรื่องการตรวจสอบในพจนานุกรมภาษาอังกฤษก็ขึ้นอยู่กับความสนใจของแต่ละคนแล้วนะคะ แต่ถ้าใครชอบใช้ความรู้ึสึกส่วนตัวก็ตามนั้น หรือถ้าใครใช้แล้วยังไม่แม่น ก็แนะนำให้ตรวจสอบจากแหล่งข้อมูลหลายๆที่ เพื่อความแม่นยำในความถูกต้อง และเพื่อความจำและความเข้าใจในระยะยาวของตัวเราเองนะคะ


3. Finite Verb - ตัว finite เอง แปลว่า มีขอบเขต เมื่อรวมกับ verb แล้วก็จะแปลตรงตัวว่า กริยาที่มีขอบเขต แต่จริงๆแล้ว เจ้าFinite Verb นี้ คนทั่วๆไปจะรู้จักกันในคำนิยามว่า "กริยาแท้" ถ้าจะให้บิ้วลองโยงด้วยความคิดของตัวเองว่า คำนิยามทั่วไป กับ ความหมายตรงตัวของคำนี้มันเกี่่ยวข้องกันยังไง บิ้วก็คิดได้ประมาณนี้ค่ะว่า กริยาที่มีขอบเขตนั้น มันมีขอบเขตที่เป็นได้เพียง "กริยา" ถูกจำกัดขอบเขตเป็นได้แค่กริยาเท่านั้น จึงถือว่าเป็นกริยาแท้ ทีนี้คำว่า"กริยาแท้" ต้องแปลไปอีกว่า กริยาคือการกระทำ แท้คือจริง เพราะฉะนั้น กริยาแท้ คือ กระทำจริงๆ

ถ้าเข้าใจย่อหน้าบนนี้แล้ว ถ้าถามว่า อ้าวแล้วจะรู้ได้ไงว่ากริยาตัวไหนคือ finite v. บอกง่ายๆ ค่ะ v.อะไรก็ตามค่ะ ที่มันอยู่ใน tenseหรือ voice ทั้งหมด tense ทั้ง 12 tenses หรือ Active Voice กับ Passive Voice นั่นแหละค่ะ ถ้าใครจะทวนเรื่อง tense ขอให้ย้อนกลับไปอ่านบล็อกอันแรกของบิ้วได้เลยนะคะ ส่วนเรื่อง Active กับ Passive คงจะ้ต้องรอไปก่อนค่ะ ถ้าใครรอไม่ไหว ก็ค้นหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตหรืออ่านจากหนังสือก่อนได้เลยนะคะ :)

สำหรับกริยาที่มีการกระทำก็จะหมดเพียงเท่านี้นะคะ

ต่อไปก็จะเป็นกริยาที่ไม่มีการกระทำ เพียงแต่มีรูปเป็นกริยา ในที่นี้มีอยู่ 2 ตัว
คือ Helping V. (Auxiliary V.) คือกริยาช่วย และ Non - finite V.
ซึ่งเนื้อหาของ กริยาช่วยนั้น บิ้วได้เขียนไปแล้วในบล็อกที่มีชื่อว่า "กริยาช่วยมีอะไรบ้างน้อ"
หรือถ้าใครยังไม่ค่อยกระจ่างความหมายของ Finite V. ก็ให้กลับไปอ่านบล็อกแรกๆ (จำไม่ได้ว่าอันที่เท่าไหร่ แต่มีชื่อบล็อกว่า "ตัวนั้นก็กริยา ตัวนี้ก็กริยา" ดูแล้วกันนะคะ ถ้ามีปัญหาหรือข้อสงสัย สอบถามได้เลยนะคะ แล้วบิ้วจะเข้ามาตอบให้ค่ะ :)

เอาล่ะค่ะ ตอนนี้ก็จะขอจบเื่รื่องกริยาตอนที่ 1 ไว้เพียงเท่านี้ก่อนนะคะ เดี๋ยวตอนที่สองจะเป็นเนื้อหาของ Non - finite V. ค่ะ

ขอบคุณทุกๆคนมากนะค้า ที่เข้ามาเยี่ยมชม


No comments:

Post a Comment