Sunday, March 18, 2012

Verb (กริยา) ตอนที่ 2

ไม่พูดพร่ำทำเพลงแล้วนะจ๊ะ เรามาต่อเนื้อหากันเลยดีกว่านะคะ :)

Non - finite Verb ความหมายที่เป็นที่รู้จักคือ "กริยาไม่แท้"
คำว่า Non แปลว่า ไม่ เมื่อมาอยู่ข้างหน้าคำว่า finite จึงแปลแบบนี้นะคะ
แต่ถ้าจะให้แปลตรงตัว คือ "กริยาที่ไม่จำกัดขอบเขต" อธิบาย(ตามความคิดของบิ้ว)
ได้ว่า ตัวเค้าเองไม่ได้จำกัดขอบเขตว่าจะต้องเป็นกริยาเท่านัน ถึงแม้จะรูปเป็นกริยา

ก่อนจะไปอธิบายต่อว่า Non- finite V. นี้มีอะไรบ้าง บิ้วต้องบอกก่อนนะคะ ที่ต้อง
หมายเหตุในวงเล็บไว้ว่า เป็นความคิดของบิ้ว เพราะ บิ้วพยายามหาข้อมูลที่จะเอามาอธิบาย
ที่สามารถอ้างอิงให้เชื่อถือได้ ไม่เจอค่ะ แต่บิ้วก็พยายามโยงและเชื่อมให้ผู้อ่านนึกแล้ว
เข้าใจได้ ว่ามันคืออะไรนะคะ ก็แล้วแต่วิจารณญาณส่วนบุคคล ถ้าใครเห็นว่า สิ่งที่บิ้ววิเคราะห์
อาจจะไม่ถูกต้อง ก็แย้งได้นะคะ ยินดีรับฟังทุกอย่างค่ะ

ทีนี้มาดูกันนะคะ ว่า Non - finite V. มีอะไรบ้าง

ให้นึกเป็นครอบครัวแบบนี้อาจจะช่วยได้นะคะ
คือ คุณนอนไฟไนท์ (Non - finite) มีลูกอยู่ 3 คน คือ น้องอินวิททู (Infinitive with to) น้องเจอ (Gerund)
และน้องพาร์ (Participle) ซึ่งน้องพาร์เนี่ย มีลูกอีกสองคน คือ น้องเพรส (Present) กับน้องพาสท์ (Past)

มาดูลักษณะเด่นของเค้ากันค่ะ

น้องอินเนี่ย ต้องมี to นำหน้าตลอดค่ะ แล้วเค้าก็ชอบทำหน้าที่เป็นคำนามบ้าง หรืออาจจะทำหน้าที่เป็นส่วนขยายบ้าง ก็แล้วแต่สถานการณ์ไปนะคะ แต่จุดที่สังเกตแล้วรู้เลยว่า เป็นน้องอินแน่นอน คือเราจะเห็น to เดินนำหน้าน้องเค้ามาเสมอค่ะ

น้องเจอเนี่ย ต้องมี ing เดินตามหลังตลอดค่ะ และหน้าที่ที่เค้าทำตลอดคือ ทำหน้าที่เป็นคำนามค่ะ

ส่วนน้องพาร์เนี่ย เนื่องจากเค้ามีลูกสองคน ซึ่งลูกเค้ามีรูปร่างหน้าตาต่างกัน แต่ทำหน้าที่เหมือนกันคือ คำหน้าที่เป็น คำคุณศัพท์ (Adjective) ค่ะ เป็นหน้าที่ที่รับผิดชอบประจำเลย และเค้าชอบอยู่หน้าคำนาม
ส่วนเรื่องรูปร่างหน้าตาเนี่ย น้องเพรส พา (Present Participle)  จะมี ing ตามหลังตลอดเลยค่ะ
แต่ถ้าเป็นน้องพาสท์ พาร์ (Past Participle) บางครั้งก็มี ed ตามหลัง บางครั้งก็ไปศัลยกรรมใหม่ คือเปลี่ยนรูปไปเลย ซึ่งจริงๆแล้ว การมี ed หรือ การไปศัลยกรรม ก็อยู่ภายใต้ชื่อที่คนอื่นเรียกเค้าว่า V.3 ค่ะ

หมดแล้วค่ะ สำหรับ Non - finite V. เดี๋ยวบิ้วสรุปสั้นๆ ให้อีกครั้งนะค้า

การสังเกตว่ากริยาตัวไหน เป็น Non - finite V.
1. มี to นำหน้า
2. เป็นกริยาเติม ing แต่อยู่หน้าสุดของประโยค หรือ อยู่ท้ายประโยค และต้องไม่มี v. to be นำหน้า
3. เป็นกริยาเติม ing หรือ V.3 และจะอยู่หน้าคำนาม โดยที่ไม่มี V.to be หรือ V. to have นำหน้า

ตามนี้เลยนะค้า มีข้อสงสัยโพสต์ถามทิ้งไว้เลยจ่ะ :)

ขอบคุณทุกๆคนที่เข้ามาอ่านนะค้า ถ้าเห็นว่าเป็นประโยชน์ก็แบ่งปันความรู้ให้คนอื่นๆด้วยนะค้า

No comments:

Post a Comment