Sunday, February 5, 2012

วิธีการทำข้อสอบเรื่อง Direct and Indirect Speech

ต้องบอกไว้ก่อนว่า วิธีการเหล่านี้ บิ้วนำวิธีการคิดและลงมือทำของตัวเองมาเผยแพร่นะคะ ถ้าใครไม่ได้ใช้วิธีการเดียวกันตามนี้ ก็อาจจะเอาวิธีการเหล่านี้ไปเป็นแนวทางของตัวเองก็ได้นะคะ คือ วิธีการของแต่ละคนไม่มีถูกผิด มีแค่ว่า วิธีไหนที่จะใช้ได้ดีกับตัวเอง ก็ต้องหาให้เจอ แค่นั้นเองค่ะ .... มาดูกันเลยค่ะ สำหรับวิธีการของการทำเนื้อหาไวยากรณ์บทนี้...

1. พออ่านโจทย์แล้วให้แยกประเภทของโจทย์ให้ได้ก่อน ว่าเป็นประโยคชนิดไหน ว่าเป็นประโยคบอกเล่า คำสั่งหรือขอร้อง หรือเป็นประโยคคำถาม
    1.1 ประโยคบอกเล่า  โครงสร้างจะเป็น S + V  ซึ่งในบางครั้ง ก็จะมีประโยคปฏิเสธด้วย S + V. ช่วย + not + V. แท้ ซึ่งต้องดูเองว่าเป็น tenses ไหน เพราะจะต้องย้อนกาลเวลาให้ถูกต้องตามกฏ ถ้าใครไม่แม่นโครงสร้างประโยค ก็จะเสียคะแนนในส่วนนี้ไป เพราะไม่สามารถย้อนกาลเวลาได้ถูกต้อง เพราะไม่รู้จักโครงสร้างและรูปแบบของกริยาทั้งสามช่อง
    1.2 ประโยคคำสั่งหรือขอร้อง โจทย์จะขึ้นต้นด้วยคำกริยาทั่วๆไป (ให้ทำ) หรือ ขึ้นต้นด้วย Don't (ไม่ให้ทำ)
    1.3 ประโยคคำถาม ให้สังเกตเครื่องหมาย ? ท้ายประโยค

2. ถ้าแยกประเภทของประโยคได้แล้ว ให้ดูแต่ละประเภท ดังนี้
    2.1 ประโยคบอกเล่า ให้ขีดเส้นใต้คำที่จำเป็นต้องเปลี่ยนไว้ก่อน
    2.2 ประโยคคำสั่งหรือขอร้อง ให้ดูประโยคว่า เป็นแบบ "ให้ทำ" หรือ "ไม่ให้ทำ"
    2.3 ประโยคคำถาม ให้ดูว่าเป็นแบบ "Yes/No" (ขึ้นต้นด้วย กริยาช่วยทั้งหมด) หรือ "Wh-Q" (ขึ้นต้นด้วย Wh-Q ทั้งหมด)

3. ดำเนินการทำตามกฏที่กำหนดไว้ในแต่ละประเภท
    3.1 ประโยคบอกเล่า ทำตามกฏที่กำหนดไว้ จากข้อ 2 เราได้ขีดเส้นใต้คำไว้แล้ว ก็เปลี่ยนตามนั้น ต้องเปลี่ยนสรรพนามก็เปลี่ยน มีคำบอกเวลาที่ต้องเปลี่ยนก็เปลี่ยน กาลเวลานี่ต้องย้อนอยู่แล้ว มีสถานที่ให้เปลี่ยนก็เปลี่ยน
   3.2  ประโยคคำสั่งหรือขอร้อง ถ้าเป็นแบบให้ทำ (ใส่ to หน้ากริยา) ไม่ให้ทำ (เอา not to ไปแทนที่ Don't) ให้จำไว้ว่า ประเภทคำสั่งหรือขอร้องนี้ "ไม่มีการย้อนกาลเวลา" แต่กฏข้ออื่นๆยังคงเดิม คือมีอะไรให้เปลี่ยนก็เปลียน
   3.3  ประโยคคำถาม ถ้าเป็นแบบคำถาม ให้ลองกลับประโยคเป็นขั้นๆ ก่อน เช่น แบบ Yes/No มีวิธีการทำอยู่ 3 ขั้น โดยขั้นแรก ให้เพิ่ม ifหรือ whether หน้า ประธานไว้ก่อน ขั้นที่สองคือ กลับประโยค จากประโยคคำถามให้เป็นประโยคบอกเล่า ขั้นที่สามคือ ทำตามกฏของการทำประโยคบอกเล่า คือมีอะไรให้เปลี่ยนก็เปลี่ยน ซึ่งในแบบ Yes/No นี้ ถ้าใครทำตามขั้น ก็จะสามารถขีดเส้นใต้คำที่จำเป็นต้องเปลี่ยนได้ในขั้นที่สอง จะทำให้เกิดความแน่นอนและกันพลาดได้มากขึ้น
          แต่ถ้าเป็นแบบ Wh-Q ขั้นที่หนึ่งคือให้กลับประโยคจากคำถามเป็นประโยคบอกเล่าได้เลย โดยคงตัว Wh-Word ไว้ ซึ่งเมื่อกลับประโยคเป็นบอกเล่าแล้ว ก็จะสามารถขีดเส้นใต้คำที่จำเป็นต้องเปลี่ยนได้เช่นกัน แล้วค่อยไปทำขั้นที่สองคือทำตามกฏของประโยคบอกเล่า คือมีตรงไหนเปลี่ยนก็เปลี่ยน

          การทำ Direct Speech ให้เป็น Indirect หรือ Reported Speech นี้ จริงๆแล้วไม่ยากค่ะ ที่เด็กส่วนใหญ่เห็นว่ายาก เพราะไม่เข้าใจเนื้อหาในเรื่องเหล่านี้อย่างแท้จริง คือเรื่องของ คำสรรพนาม โครงสร้างกาลเวลา (บอกเล่า, คำถาม, ปฏิเสธ) กริยาสามช่อง กริยาช่วย แล้วก็สำหรับเด็กที่ไม่ชอบอ่านหรือขี้เกียจจำ เพราะจริงๆแล้ว ตรงที่เปลี่ยนคำบอกเวลาไม่ยากเลยค่ะ แค่ท่องจำ ถ้าใส่ใจกับเค้าหน่อย ห้าถึงสิบนาทีก็ได้แล้วค่ะ เด็กที่รู้ตัวว่าตัวเองจำช้า เข้าใจช้า ก็ต้องอ่านเยอะกว่าเพื่อน แต่ถ้าไม่พยายามก็ไม่มีผลอะไรค่ะ ต่อให้เจออะไรที่ง่ายแค่ไหน ก็ทำไม่ได้ เพราะในสมองและจิตใจ สะกดเป็นแต่คำว่า "ยาก" ไม่เคยคิดว่าอะไร "ง่าย" หรือสำหรับเด็กที่อ่านหรือสะกดไม่ได้ ก็ต้องไปทำให้ตัวเองอ่านแล้วก็สะกดได้ก่อน จะมาใช้เป็นข้ออ้างว่า ไม่อยากอ่านเพราะอ่านไม่ได้ ไม่ได้หรอกนะคะ ทุกอย่างอยู่ที่ตัวเราทั้งหมด อยู่ที่ว่า จะทำรึเปล่าแค่นั้นเอง...  โอเคนะคะ ตามนี้ค่ะ มีปัญหาหรือข้อสงสัย สอบถามทิ้งไว้ได้ค่ะ :)

5 comments:

  1. อาจารย์ค๊ะ ,, ซินอยากได้ข้อสอบเรื่องนี้มาฝึกทำอะคะ ,, พอจะมีเว๊ปให้บ้างมั๊ยค๊ะ ,, ขอบคุณล่วงหน้านะค๊ะ ^^

    ReplyDelete
  2. เดี๋ยวจะหามาทิ้งไว้ให้น้า ไม่น่าเกินคืนนี้อ่าจ่ะ ... ขอบคุณน้องซินเหมือนกันค๊าบ :)

    ReplyDelete
  3. ลองดูลิงก์พวกนี้นะจ๊ะ มีง่ายมียากปนกันไปอ่า มันจะมีเฉลยด้วย ซินก็ลองฝึกทำละกันน้า :)

    http://www.e-grammar.org/reported-speech/test1-exercise1/
    http://www.englishpractice.com/grammar/direct-indirect-speech-exercise-ii/
    http://www.myenglishgrammar.com/english/exercise-5-indirect-speech.html

    ReplyDelete
  4. ขอบคุณมากคะ อาจารย์ ^^

    ReplyDelete
  5. ยินดีเจ้าาา :)

    ReplyDelete